บานพร้อมกับเสียงหรีดหริ่งเรไร
นกที่ฉันไม่รู้จักชื่อ ขับขานลำนำแห่งขุนเขา
ถ้าดอกอะจิไซบานทุกวันล่ะ
ถ้าไม่ต้องรอคอยการมาของเธอล่ะ
ความสวยงามที่พบได้ทุกวัน
ความรู้สึกจะแปรไปเป็นความเบื่อหน่าย ชิงชังไหม
ฤดูร้อนที่ค่อย ๆ ผันผ่าน
อะจิไซค่อย ๆ แห้งคาต้น
เธอใช่อะจิไซจริง ๆ น่ะหรือ
อะจิไซที่ฉันหลงรักน่ะ มีสีละมุนละไมนะ
ตายละ ฉันโดนเธอหลอก ว่าเธอมีสีสวยอ่อนโยน ช่วยปลอบประโลมใจคนโศก
เมื่อกาลเวลาผ่านไป สีสันของเธอกลับทำให้ฉันขยะแขยง
ก่อนที่กลีบสุดท้ายจะร่วงจากต้น
ฉันสวมถุงมือยาง ปลิดขั้วดอกของเธอ รวบรวมกลีบแห้งเหี่ยว สีสันจืดชืดเหล่านั้นลงในถุงพลาสติก
แน่สิ ฉันต้องสวมถุงมือยาง ใจฉันอยากสวมทับหลาย ๆ ชั้นด้วยซ้ำ
ฉันกลัวสัมผัสจากเธอจะทำให้มือฉันแปดเปื้อน
กลีบของเธอ ฉันเอาไปบด ปรุงเป็นยาพิษ
ค่อย ๆ กลืนลงคออย่างช้า ๆ
แสบร้อน แต่เจือรสหวาน เจือกลิ่นหอมละมุน
ฉันไม่ตาย แต่ฉันต้องมีชีวิตอยู่ไปอีกร้อยปี
ชีวิตที่ต้องเฝ้ามองการเดินทางมาถึงของเธอทุกๆหน้าร้อน
และต้องเฝ้ามองการจากไปของเธอเมื่อลมหนาวพัดบาดต้นคอ
ต้องเฝ้ามองแบบนี้ ไปอีกเป็นร้อยปี ทั้งที่ไม่รู้ว่า
เธอ ณ ฤดูร้อนครานี้
กับเธอ ในฤดูร้อนถัดไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น